เครื่องจักรเป็นกำลังสำคัญในอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นโรงงานที่ต้องเดินเครื่องผลิตตลอดเวลา คลังสินค้าที่ใช้เครื่องจักรช่วยขนย้ายของ หรือไซต์ก่อสร้างที่ต้องพึ่งพาเครื่องจักรให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักรก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที อาจทำให้งานสะดุด หรือต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมมากกว่าที่คิด
การเข้าใจปัญหาที่พบบ่อยและมีแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมจะช่วยให้เครื่องจักรทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว มาดูกันว่ามีปัญหาอะไรที่พบได้บ่อย พร้อมวิธีป้องกันที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
ปัญหาระบบไฮดรอลิก
ปัญหาของระบบไฮดรอลิกในเครื่องจักรมักเกี่ยวข้องกับการใช้งานที่ต่อเนื่องและสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งสามารถทำให้เกิดความเสียหายได้หลายรูปแบบ โดยทั่วไป สาเหตุหลักมักเกิดจากการปนเปื้อนในระบบ เช่น ฝุ่นละออง น้ำ หรือเศษวัสดุที่เล็ดลอดเข้ามาในกระบวนการทำงาน ซึ่งส่งผลให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอเร็วขึ้น
นอกจากนี้ การรั่วไหลของน้ำมันไฮดรอลิกก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อย โดยมักเกิดจากซีลที่เสื่อมสภาพ อาจทำให้แรงดันในระบบลดลง และกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร รวมถึงความร้อนที่สะสมในระบบไฮดรอลิกก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ส่วนประกอบภายในเสียหายได้เร็วขึ้น
การป้องกัน
- ตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ
- ตรวจสอบและเปลี่ยนซีลที่เสื่อมสภาพ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันควรตรวจสอบระบบระบายความร้อนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถควบคุมอุณหภูมิของน้ำมันไฮดรอลิกในระบบให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้
ระบบไฟฟ้า
เครื่องจักรที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น มักประสบปัญหาที่ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟฟ้าช็อต อีกทั้งจุดเชื่อมต่อที่หลวมยังสามารถทำให้พลังงานไม่ถูกส่งผ่านอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดประกายไฟ หรือไฟไหม้ได้ หากไม่ทำการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
การป้องกัน
- เปลี่ยนสายไฟที่เสื่อมสภาพหรือชำรุดทันที และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเลือกใช้สายไฟที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานของเครื่องจักร
- ตรวจสอบขั้วต่อและจุดเชื่อมต่อ หากพบว่าหลวม ให้ขันแน่นหรือเปลี่ยนอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ชำรุด เพื่อให้การส่งผ่านพลังงานเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ
- หยุดใช้งานเครื่องจักรทันทีเมื่อพบอาการผิดปกติ เช่น แบตเตอรี่ร้อนเกินไป หรือระบบชาร์จไฟไม่ทำงาน และตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญ
ปัญหาของเครื่องยนต์
ปัญหาของเครื่องยนต์มักเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การบำรุงรักษาที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ความร้อนสูงเกินไปจากระบบระบายความร้อนที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือการใช้งานหนักอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีช่วงพัก นอกจากนี้ การหล่อลื่นที่ไม่เพียงพออาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียดสีกันจนเกิดความเสียหาย รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปนเปื้อนสิ่งสกปรกหรือน้ำ ก็อาจส่งผลให้ระบบเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติได้
การป้องกัน
- ปฏิบัติตามตารางการบำรุงรักษาที่เคร่งครัดและตรวจสอบเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ
- รักษาระบบระบายความร้อนให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไป
- ใช้น้ำมันหล่อลื่นและน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับประเภทของเครื่องยนต์
- เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันและอากาศตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อป้องกันการปนเปื้อน
- หลีกเลี่ยงการใช้งานเครื่องยนต์ในลักษณะที่เกินขีดจำกัดที่กำหนดไว้เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานหนักเกินไป
ปัญหาเครื่องจักรอาจดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้ารู้สาเหตุและแก้ไขให้ถูกจุด ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล หลายครั้งปัญหาเล็ก ๆ ที่ถูกมองข้าม อาจบานปลายจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ ถ้าขาดการดูแลที่เหมาะสม แค่หมั่นตรวจเช็กและบำรุงรักษาให้สม่ำเสมอ ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม แถมยังยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรได้อีกด้วย